สารบัญเนตติ ห้วเรื่อง, เลขข้อ | เนตติไฟล์เดียว html, text

เนตติปกรณ์แปล ข้อ 094 (+สาสนปัฏฐาน)

       [94] พระผู้มีพระภาคเจ้า ประทับอยู่พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล ภิกษุมากรูปย่อมกระทำจีวรกรรมเพื่อพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยคิดว่าพระผู้มีพระภาคเจ้ามีจีวรสำเร็จแล้ว จะเสด็จจาริกไปโดยล่วงสามเดือน ก็สมัยนั้น พวกช่างไม้นามว่า อิสิทัตตะและปุราณะ อาศัยอยู่ในเมืองสาเกตด้วยกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง พวกเขาทั้ง 2 นั้น ได้ข่าวว่า "ได้ยินว่า ภิกษุมากรูปย่อมกระทำจีวรกรรม เพื่่อพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยคิดว่า พระผู้มีพระภาคเจ้ามีจีวรสำเร็จแล้ว จะเสด็จจาริกไปโดยล่วงสามเดือน" ดังนี้ครั้งนั้นแล ช่างไม้นามว่า อิสิทัตตะและปุราณะ จึงวางบุรุษไว้ในหนทางโดยสั่งว่า ดูก่อนบุรุษผู้เจริญ ท่านเห็นพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาในเวลาใด พึงบอกพวกเราในเวลานั้น ดังนี้ บุรุษนั้นยืนอยู่ที่นั้น 2-3 วัน ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้า เสด็จมาแต่ไกล จึงเข้าไปหาช่างไม้ทั้ง 2 นั้น แล้วบอกว่า ท่านผู้เจริญทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า กำลังเสด็จมา ขอพวกท่านจงทราบกาลอันควรในบัดนี้เถิด ดังนี้
       ครั้งนั้นแล ช่างไม้ทั้ง 2 นามว่า อิสิทัตตะและปุราณะ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว เดินตามพระผู้มีพระภาคเจ้าไปข้างพระปฤษฎางค์ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแวะจากหนทาง เสด็จเข้าไปยังโคนไม้แห่งหนึ่ง แล้วประทับนั่งบนอาสนะที่เขาปูลาดถวาย ช่างไม้ทั้ง 2 นามว่า อิสิทัตตะและปุราณะ อภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วนั่ง ณ ที่่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูลว่า"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เวลาใด พวกข้าพระองค์ ได้ฟังข่าวพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า จักเสด็จจาริกจากพระนครสาวัตถีไปในโกศลชนบท เวลานั้น พวกข้าพระองค์มีความเสียใจ น้อยใจว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าจักห่างพวกเราไป เวลาใด ได้ข่าวว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จจาริกจากพระนครสาวัตถี ไปในโกศลชนบทแล้ว เวลานั้น พวกข้าพระองค์มีความเสียใจน้อยใจว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าห่างพวกเราไปแล้ว" ดังนี้ ฯลฯ
       "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เวลาใด พวกข้าพระองค์ ได้ฟังข่าวพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า จักเสด็จจาริกจากแคว้นกาสีไปในมคธ เวลานั้น พวกข้าพระองค์มีความเสียใจ น้อยใจว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าจักห่างพวกเราไปเวลาใด ได้ข่าวว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จจาริกจากแคว้นกาสีไปในมคธแล้ว เวลานั้น พวกข้าพระองค์ มีความเสียใจ น้อยใจว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าห่างพวกเราไปแล้ว" ดังนี้ ฯลฯ
       "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เวลาใด พวกข้าพระองค์ ได้ฟังข่าวพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า จักเสด็จจาริกจากมคธไปในกาสี เวลานั้น พวกข้าพระองค์มีความดีใจปลื้มใจว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า จักใกล้พวกเรา ก็เวลาใด ได้ข่าวว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จจาริกจากมคธไปในกาสีแล้ว ดังนี้ พวกข้าพระองค์มีความดีใจ ปลื้มใจว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าใกล้พวกเราแล้ว"ดังนี้ ฯลฯ
       "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เวลาใด พวกข้าพระองค์ ได้ฟังข่าวพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า จักเสด็จจาริกจากโกศลไปสู่พระนครสาวัตถี เวลานั้นพวกข้าพระองค์มีความดีใจปลื้มใจว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าจักใกล้พวกเราดังนี้ เวลาใด พวกข้าพระองค์ได้ข่าวว่าพระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์ทรงประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ดังนี้ พวกข้าพระองค์มีความดีใจมากปลื้มใจมากว่าพระผู้มีพระภาคเจ้า ใกล้พวกเราแล้ว" ดังนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า"ดูกรช่างไม้ทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ ฆราวาสคับแคบ เป็นทางแห่งธุลี บรรพชาชื่อว่า โอกาสอันว่าง เพราะอรรถะว่า ไม่มีปลิโพธเป็นเครื่องกังวล ดูกรช่างไม้ทั้งหลาย ก็การที่ท่านทั้งหลายผู้อยู่ครองเรือนมีความคับแคบอย่างนี้ สมควรแล้ว เพื่อทำความไม่ประมาท""ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ความคับแคบอย่างอื่น ที่เป็นความคับแคบกว่า และที่นับว่าคับแคบยิ่งกว่าความคับแคบนี้ มีอยู่หนอ""ดูกรนายช่างไม้ ความคับแคบของท่าน เป็นไฉน""ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอประทานพระวโรกาส เมื่อใดพระเจ้าปเสนทิโกศล มีพระราชประสงค์จะเสด็จออกไปยังพระราชอุทยาน เมื่อนั้นข้าพระองค์ทั้งหลายต้องกำหนดช้างที่ขึ้นทรงของพระเจ้าปเสนทิโกศลแล้วให้พระชายาที่โปรดปราน ที่พอพระทัยของพระเจ้าปเสนทิโกศลประทับข้างหน้าพระองค์หนึ่ง ข้างหลังพระองค์หนึ่ง กลิ่นของพระชายาเหล่านั้นเป็นอย่างนี้ คือ เหมือนกลิ่นของนางราชกัญญาผู้ประพรมด้วยของหอม ดังขวดน้ำหอมที่เขาเปิดในขณะนั้น ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ กายสัมผัสของพระชายาเหล่านั้น เป็นอย่างนี้ คือ เหมือนกายสัมผัสของนางราชกัญญาผู้ดำรงอยู่ด้วยความสุข ดังปุยนุ่น หรือปุยฝ้าย ก็ในสมัยนั้น แม้ช้างข้าพระองค์ทั้งหลายก็ต้องระวัง แม้ชายาทั้งหลาย พวกข้าพระองค์ก็ต้องระวังแม้พระเจ้าปเสนทิโกศลเล่า พวกข้าพระองค์ก็ต้องระวัง แม้ตัวข้าพระองค์ทั้งหลายก็ต้องระวัง ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พวกข้าพระองค์ไม่รู้ว่า จิตอันลามก บังเกิดขึ้นในพระชายาเหล่านั้นเลย ข้อนี้แล คือ ความคับแคบอย่างอื่นที่คับแคบกว่า และที่นับว่าเป็นความคับแคบยิ่งกว่าความคับแคบ"
       ดังนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า"ดูกรช่างไม้ทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแหละการครองเรือนจึงคับแคบเป็นทางมาแห่งธุลี บรรพชาเป็นทางปลอดโปร่ง ดูกรช่างไม้ ก็การอยู่ครองเรือนคับแคบ เป็นทางมาแห่งธุลีอย่างนี้ สมควรแล้วเพื่อทำความไม่ประมาท"
       "ดูกรช่างไม้ทั้งหลาย อริยสาวกประกอบด้วยธรรม 4 ประการย่อมเป็นพระโสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้ข้างหน้า"
       "ธรรม 4 ประการเป็นไฉน ดูกรนายช่างไม้ อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ประกอบด้วยความเลื่่อมใสอันไม่หวั่นไหว ในพระพุทธเจ้าว่า แม้เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ฯลฯ ในพระธรรม ฯลฯ ในพระสงฆ์ ฯลฯ มีใจปราศจากมลทินคือความตระหนี่ อยู่ครองเรือน มีจาคะอันปล่อยแล้ว มีฝ่ามืออันชุ่ม ยินดีในการสละ ควรแก่การขอ ยินดีในการจำแนกทาน กระทำการเฉลี่ยไทยธรรม ดูกรนายช่างไม้ทั้งหลายอริยสาวก ผู้ประกอบด้วยธรรม 4 ประกากรเหล่านี้แล เป็นพระโสดาบันมีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้ในเบื้องหน้า"
       "ดูกรนายช่างไม้ทั้งหลาย ท่านทั้งหลายประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้า ฯลฯ ในพระธรรม ฯลฯ ในพระสงฆ์ ฯลฯ ก็ไทยธรรมสิ่งใดสิ่งหนึ่งมีอยู่ในตระกูล ท่านเฉลี่ยไทยธรรมนั้นทั้งหมด กับผู้มีศีล มีกัลยาณธรรม ท่านทั้งหลาย จะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ชนเหล่าใด เป็นผู้มีศีล เป็นต้น มีประมาณเท่าไร ในแคว้นโกศล ชนเหล่านั้นท่านพึงแบ่งทำให้เสมอกันจำแนกทาน" ดังนี้"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เป็นลาภของข้าพระองค์ทั้งหลาย ข้าพระองค์ได้ดีแล้ว ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบพฤติการณ์อย่างนี้ของข้าพระองค์ทั้งหลาย" ดังนี้สูตรนี้ ชื่่อว่า วาสนาภาคิยสูตร
[สารบัญ] | หน้าค้นหา
(ไม่สงวนลิขสิทธิ์)