สารบัญเนตติ ห้วเรื่อง, เลขข้อ | เนตติไฟล์เดียว html, text

เนตติปกรณ์แปล ข้อ 063 (2. วิจยหารสัมปาตะ)

       [63] ด้วยประการตามที่กล่าวนี้ ธรรมทั้ง 3 คือ อินทรีย์ทั้งหลาย พละทั้งหลายและวิริยะเป็นบริกขาร (คือ ธรรมให้เกิดขึ้น) แห่งสมาธินั้นนั่นแล อินทรีย์ทั้งหลายเหล่านั้นนั่นแหละ เป็นพละทั้งหลายด้วยสามารถแห่งความเพียร ชื่่อว่าอินทรีย์ เพราะอรรถะว่า ความเป็นใหญ่ ชื่่อว่า พละ เพราะอรรถะว่า เป็นธรรมไม่หวั่นไหว โดยนัยที่กล่าวนี้ ความที่อินทรีย์เหล่านั้นอ่อน ปานกลาง แก่กล้าคือ บุคคลนี้มีอินทรีย์อ่อน บุคคลนี้มีอินทรีย์ปานกลาง บุคคลนี้มีอินทรีย์แก่กล้า ฯ
       ในบุคคล 3 นั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า ย่อมตรัสสอนบุคคลผู้มีอินทรีย์แก่กล้าด้วยโอวาทย่อ ย่อมตรัสสอนบุคคลผู้มีอินทรีย์ปานกลางด้วยโอวาทที่พิสดารอย่างย่อ ย่อมตรัสสอนบุคคลผู้มีอินทรีย์อ่อนด้วยโอวาทพิสดาร ฯ ในบุคคลเหล่านั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงธรรมเทศนาเล็กน้อย (คือ เพียงยกอุทเทสขึ้น)แก่บุคคลผู้มีอินทรีย์แก่กล้า ย่อมแสดงธรรมเทศนาอันควรแก่บุคคลผู้มีปัญญาไม่คมกล้านัก (โดยอุทเทสและนิทเทส) แก่ผู้มีอินทรีย์ปานกลาง ย่อมแสดงธรรมเทศนาพิสดาร (โดยอุทเทส นิทเทส และปฏินิทเทส) แก่ผู้มีอินทรีย์อ่อน ฯ
       ในบุคคลเหล่านั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแนะนำสมถะ แก่บุคคลผู้มีอินทรีย์แก่กล้า ทรงแนะนำสมถะวิปัสสนาแก่ผู้มีอินทรีย์ปานกลาง ทรงแนะนำวิปัสสนาแก่ผู้มีอินทรีย์อ่อน ฯ ย่อมแสดงนิสสรณะ (การออกไป) แก่ผู้มีอินทรีย์แก่กล้า ย่อมแสดงอาทีนวะ (โทษ) และนิสสรณะ แก่ผู้มีอินทรีย์ปานกลางย่อมแสดงอัสสาทะ (ความยินดี) อาทีนวะ และนิสสรณะ แก่ผู้มีอินทรีย์อ่อน ฯ
       ในบุคคลเหล่านั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าย่อมยังบุคคลผู้มีอินทรีย์แก่กล้าให้รู้ด้วยอธิปัญญาสิกขา ย่อมยังบุคคลผู้มีอินทรีย์ปานกลางให้รู้ด้วยอธิจิตตสิกขา ย่อมยังบุคคลผู้มีอินทรีย์อ่อนให้รู้ด้วยอธิสีลสิกขา ฯ
       ญาณใด เป็นไปโดยเหตุ โดยฐานะ ไม่ขัดข้องในการรู้อินทรีย์มีความอ่อนปานกลาง และแก่กล้านี้ ญาณนี้ เรียกว่า ญาณรู้ความแตกต่างกันแห่งอินทรีย์ที่ยิ่งและหย่อนแห่งสัตว์เหล่าอื่น แห่งบุคคลเหล่าอื่น เพื่อแสดงความเป็นไปแห่งเทศนานั้นว่า "บุคคลนี้ถึงแล้ว (กำลังถึง หรือจักถึง) ซึ่งภูมินี้ ซึ่งภาวนานี้ ในเวลานี้ ด้วยอนุสาสนีนี้ บุคคลนี้มีธาตุอย่างนี้ บุคคลนี้มีอาสยะ (ทิฏฐิ) นี้และบุคคลนี้มีอนุสัยนี้" ดังนี้ เป็นกำลังของพระตถาคต ข้อที่ 7 ฯ
       ญาณใดของพระผู้มีพระภาคเจ้า ย่อมตามระลึกถึงขันธ์ที่อาศัยในกาลก่อน มีประการมิใช่น้อย ในความเป็นแห่งอินทริยปโรปริยัตตญาณนั้น ญาณนี้เป็นกำลังของพระตถาคต ข้อที่ 8 ฯ คือ พระองค์ย่อมทรงระลึกถึงชาติหนึ่งบ้าง 2 ชาติบ้าง 3 ชาติบ้าง 4 ชาติบ้าง 5 ชาติบ้าง 10 ชาติบ้าง 20 ชาติบ้าง 30 ชาติบ้าง 40 ชาติบ้าง 50 ชาติบ้าง ร้อยชาติบ้าง พันชาติบ้าง แสนชาติบ้าง ร้อยชาติเป็นอเนกบ้าง พันชาติเป็นอเนกบ้าง แสนชาติเป็นอเนกบ้างหลายสังวัฏฏกัปบ้าง (กัปที่เสื่อม) หลายวิวัฏฏกัปบ้าง (กัปที่เจริญ) หลายสังวัฏฏกัปวิวัฏฏกัปบ้าง ว่า "เราอยู่ในสังวัฏฏกัปโน้น หรือในภพโน้น ในกำเนิดโน้นในคติโน้น ในวิญญาณฐิติโน้น ในสัตตาวาสโน้น หรือในสัตตนิกายโน้น มีชื่ออย่างนี้ มีโคตรอย่างนี้ มีผิวพรรณอย่างนี้ มีอาหารอย่างนี้ มีการเสวยสุขและทุกข์อย่างนี้ มีการกำหนดอายุอย่างนี้ เรานั้น เคลื่อนจากชาตินั้นแล้วเกิดขึ้นในที่โน้น เราอยู่ในที่นั้น ได้มีชื่ออย่างนี้ มีโคตรอย่างนี้ มีผิวพรรณอย่างนี้มีอาหารอย่างนี้ มีการเสวยสุขและทุกข์อย่างนี้ มีการกำหนดอายุอย่างนี้ เรานั้นเคลื่อนจากชาตินั้นแล้วเกิดขึ้นในภพนี้" ดังนี้ พระตถาคตย่อมทรงระลึกถึงขันธสันดานที่เคยอาศัยอยู่ในกาลก่อน พร้อมทั้งอาการ พร้อมทั้งอุทเทส มีอเนกประการ ด้วยประการฉะนี้ ฯ
[สารบัญ] | หน้าค้นหา
(ไม่สงวนลิขสิทธิ์)