สารบัญเนตติ ห้วเรื่อง, เลขข้อ | เนตติไฟล์เดียว html, text

เนตติปกรณ์แปล ข้อ 091 (+สาสนปัฏฐาน)

       [91] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า"ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรากำหนดใจด้วยใจอย่างนี้แล้ว ย่อมรู้ชัดบุคคลบางคนในโลกนี้ ผู้มีจิตอันโทษประทุษร้ายแล้วว่า บุคคลนี้แล ย่อมเคลื่อนย่อมดำเนินไปในทางที่ผิด ถ้าบุคคลนี้ พึงทำกาละในสมัยนี้ พึงตกนรกเหมือนถูกนำไปขังไว้ในนรก ข้อนี้เพราะเหตุอะไร เพราะจิตของเขาอันโทษประทุษร้ายแล้ว ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เพราะจิตประทุษร้ายเป็นเหตุแลเมื่อกายแตกตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก" ดังนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสเนื้อความนี้ไว้แล้ว ในพระสูตรนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสคาถาประพันธ์ ดังนี้ว่า"พระพุทธเจ้าทรงทราบบุคคลบางคนในโลกนี้ ผู้มีจิตอันโทษประทุษร้ายแล้ว ได้พยากรณ์เนื้อความนี้แก่ภิกษุทั้งหลายในสำนักของพระองค์ว่าถ้าในสมัยนี้ บุคคลพึงทำกาละไซร้ เขาพึงเข้าถึงนรก เพราะจิตของเขาขุ่นมัว เขาเป็นอย่างนั้น เหมือนถูกนำมาทอดทิ้งไว้ฉะนั้น สัตว์ทั้งหลายย่อมไปสู่ทุคติเพราะเหตุที่จิตขุ่นมัว บุคคลนั้นมีปัญญาทราม ย่อมเข้าถึงนรกเพราะกายแตก" ดังนี้เนื้อความแม้นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้ว ฉะนี้แล ฯ
       สูตรนี้ ชื่อว่า สังกิเลสภาคิยสูตร
       พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า"ถ้าท่านทั้งหลายกลัวต่อความทุกข์ ถ้าความทุกข์ไม่เป็นที่รักของท่านทั้งหลายไซร้ ท่านทั้งหลายอย่าได้ทำบาปกรรมทั้งในที่แจ้งหรือในที่ลับถ้าท่านทั้งหลายจักทำหรือทำอยู่ซึ่่งบาปกรรมไซร้ ท่านทั้งหลายแม้จะเหาะหนีไป ก็ย่อมไม่พ้นไปจากความทุกข์" ดังนี้สูตรนี้ ชื่อว่า สังกิเลสภาคิยสูตร
       พระสูตรใดที่กล่าวไว้ว่า"คนพาลเหล่าใด ได้ทรัพย์โดยไม่เป็นธรรม และด้วยการพูดเท็จย่อมสำคัญทรัพย์ทั้ง 2 นั้น ว่าเป็นของเราดังนี้ ทรัพย์นั้นของคนพาลเหล่านั้น จักมีโดยประการใดหนอ อันตรายทั้งหลายจักมี ทรัพย์อันคนพาลนั้นรวบรวมไว้จักพินาศ เมื่อตาย ย่อมไม่ไปสุคติ เพราะอันความเสื่อมในโลกนี้และโลกหน้าขจัดแล้ว" ดังนี้สูตรนี้ ชื่อว่า สังกิเลสภาคิยสูตร
       พระสูตรใดที่กล่าวไว้ว่า"คนพาลย่อมทำลายตนอย่างไร ย่อมเสื่อมจากมิตรทั้งหลายอย่างไรคนพาลนั้นย่อมไม่เจริญเพราะธรรมอะไร ย่อมไม่ไปสู่สุคติ เพราะอะไร คนพาลย่อมทำลายตนเพราะโลภะ คนโลภย่อมเสื่อมจากมิตรทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญเพราะโลภะ ย่อมไม่ไปสุคติเพราะโลภะ" ดังนี้แม้สูตรนี้ ชื่อว่า สังกิเลสภาคิยสูตร
       พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า"คนพาลมีปัญญาทราม มีตนเหมือนข้าศึก เที่ยวทำบาปกรรมอันมีผลเผ็ดร้อน บุคคลทำกรรมใดแล้ว ย่อมเดือดร้อนในภายหลัง กรรมนั้นทำแล้วไม่ดี บุคคลมีหน้าชุ่มด้วยน้ำตา ร้องไห้อยู่ ย่อมเสพผลของกรรมใดกรรมนั้นทำแล้ว ไม่ดี" ดังนี้สูตรนี้ ชื่อว่า สังกิเลสภาคิยสูตร
       เทวดากล่าวว่า
       "ธรรมของสมณะ คนไม่ฉลาด ทำได้ยาก ทนได้ยาก เพราะธรรมของสมณะนั้น มีความลำบากมาก ในความเป็นแห่งสมณะ เป็นที่ติดขัดข้องของคนพาล" ดังนี้สูตรนี้ ชื่อว่า สังกิเลสภาคิยสูุตร
       คำกล่าวว่า "จริงอยู่ บุคคลใด เมื่อพระตถาคตกำลังแสดงอรรถะและธรรมะ เป็นคนพาลย่อมยังใจให้ประทุษร้าย ชีวิตของบุคคลนั้นย่อมเป็นโมฆะแลก็บุคคลใด ยังไม่ปราศจากราคะ ย่อมยังจิตให้ประทุษร้ายในพระตถาคตผู้มีคุณไม่มีประมาณ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ย่อมติเตียนคนนั้นว่าเป็นผู้มีทุกข์ และมีบาปยิ่งกว่าทุกข์นั้น" ดังนี้สูตรนี้ ชื่อว่า สังกิเลสภาคิยสูตร
       สุทธาวาสพรหม ปรารภพระกตโมรกติสสกะ ได้กล่าวคาถานี้ ในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า"ใครเล่า ผู้มีปัญญาในโลกนี้ จะพึงกำหนดวัดซึ่งพระขีณาสพผู้มีคุณไม่มีประมาณได้ ข้าพระองค์ย่อมเห็นผู้นั้นว่า ไม่มีธุตธรรม ไม่มีปัญญา วัดอยู่ซึ่งพระขีณาสพผู้อันบุคคลไม่พึงประมาณ" ดังนี้สูตรนี้ ชื่อว่า สังกิเลสภาคิยสูตร
       ตุทุปัจเจกพรหมได้กล่าวกะโกกาลิกภิกษุว่า "คนพาล เมื่อกล่าวคำทุพภาษิต ชื่อว่า ย่อมตัดตนด้วยศาสตราใด ก็ศาสตรานั้น ย่อมเกิดในปากของบุรุษผู้เกิดแล้ว จริงอยู่ ศาสตราที่เขาลับดีแล้ว ยาพิษที่มีพิษกล้าย่อมเป็นไปโดยประการใด วาจาทุพภาษิต ย่อมยังสัตว์ผู้ทำผิดให้ตกไป โดยประการนั้น หามิได้ เพราะวาจาทุพภาษิตนั้นย่อมให้ตกไปในอบาย" ดังนี้สูตรนี้ ชื่อว่า สังกิเลสภาคิยสูตร
[สารบัญ] | หน้าค้นหา
(ไม่สงวนลิขสิทธิ์)