นโม ตัสสะ ภควโต อรหโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
สารบัญ: ห้วเรื่อง, เลขข้อ | ไฟล์เดียว: html, text | [ค้นหา] [สารบัญ] <ก่อนนี้] [ถัดไป>

เนตติปกรณ์แปล : +สังกิเลสภาคิยสูตร

       [90] ในโสฬสสูตรนั้น สังกิเลสภาคิยสูตรเป็นไฉน
       คาถาที่กล่าวไว้ในหนหลังว่า"สัตว์ทั้งหลายมืดมนเพราะกาม ถูกตัณหาซึ่งเป็นดุจข่ายปกคลุมไว้แล้ว ถูกเครื่องมุงคือตัณหาปกปิดไว้แล้ว ถูกกิเลสมารและเทวปุตตมารผูกพันไว้แล้ว ย่อมไปสู่ชราและมรณะ เหมือนปลาที่ปากไซ เหมือนลูกโคที่ยังดื่มนม ไปตามแม่โค ฉะนั้น" ดังนี้สูตรนี้ ชื่อว่า สังกิเลสภาคิยสูตร
       พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า"ดูกรภิกษุทั้งหลาย การถึงอคตินี้มี 4 อย่าง 4 อย่างเป็นไฉน คือบุคคลย่อมถึงฉันทาคติ ย่อมถึงโทสาคติ ย่อมถึงโมหาคติและย่อมถึงภยาคติ ดูกรภิกษุทั้งหลาย การถึงอคติ 4 อย่างนี้แล" ฯ พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้สุคตศาสดา ได้ตรัสพระธรรมเทศนาไวยากรณ์ภาษิตนี้แล้ว ครั้นแล้วจึงตรัสนิคมคาถาประพันธ์นี้อีกว่า"บุคคลใด ย่อมประพฤติล่วงธรรมเพราะความรัก เพราะความชังเพราะความกลัว เพราะความหลง ยศของผู้นั้น ย่อมเสื่อมไป เหมือนดวงจันทร์ในวันกาฬปักษ์ ฉะนั้น" ดังนี้ ฯ สูตรนี้ ชื่อว่า สังกิเลสภาคิยสูตร
       พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า"ธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นหัวหน้า มีใจประเสริฐสุด สำเร็จแล้วด้วยใจถ้าบุคคลมีใจอันโทษประทุษร้ายแล้ว กล่าวอยู่ก็ตาม กระทำอยู่ก็ตามทุกข์ย่อมไปตามบุคคลนั้น เพราะทุจริต 3 อย่างนั้น เหมือนล้อหมุนไปตามรอยเท้าโคผู้ลากเกวียนไปอยู่ ฉะนั้น" ฯ สูตรนี้ ชื่อว่า สังกิเลสภาคิยสูตร
       พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า"เมื่อใด บุคคลเป็นผู้บริโภคมาก มักง่วงซึม นอนหลับ พลิกกลับไปมา ดุจสุกรใหญ่ อันบุคคลปรนปรือเหยื่อ เมื่อนั้น บุคคลนั้น เป็นคนเขลาย่อมเข้าห้องบ่อย ๆ" ดังนี้สูตรนี้ ชื่อว่า สังกิเลสภาคิยสูุตร
       พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า"สนิมเกิดขึ้นแต่เหล็ก ครั้นเกิดขึ้นแต่เหล็กแล้ว ย่อมกัดเหล็กนั่นแหละฉันใด กรรมของตน ย่อมนำบุคคลผู้มีปกติประพฤติล่วงปัญญา ชื่อ โธนาไปสู่ทุคติ ฉันนั้น" ดังนี้สูตรนี้ ชื่อว่า สังกิเลสภาคิยสูุตร
       พระรัฏฐบาลเถระได้ภาษิตไว้ว่า"โจร ผู้มีธรรมอันชั่วช้า ถูกเขาจับได้พร้อมทั้งของกลาง ย่อมเดือดร้อนและถูกจับเพราะกรรมของตน ฉันใด หมู่สัตว์ผู้มีธรรมอันชั่วช้านี้ละไปแล้ว ย่อมเดือดร้อนและถูกจับไปในปรโลกเพราะกรรมของตนฉันนั้น" ดังนี้สูตรนี้ ชื่อว่า สังกิเลสภาคิยสูุตร
       พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า"ผู้ใด แสวงหาความสุขเพื่อตน ย่อมเบียดเบียนสัตว์ทั้งหลายผู้ใคร่ความสุขด้วยอาชญา ผู้นั้นย่อมไม่ได้ความสุขในโลกหน้า" ดังนี้สูตรนี้ ชื่อว่า สังกิเลสภาคิยสูตร
       พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า"เมื่อฝูงโคข้ามแม่น้ำอยู่ ถ้าโคผู้นำไปคดไซร้ โคเหล่านั้นทั้งหมดย่อมไปคด เพราะมีผู้นำไปคด ในหมู่มนุษย์ก็เหมือนกัน ผู้ใด ได้สมมติให้เป็นผู้นำ ถ้าผู้นั้นประพฤติอธรรมไซร้ จะกล่าวไปใยถึงปวงประชาเหล่านี้ก็ย่อมประพฤติอธรรมเหมือนกัน แว่นแคว้นทั้งหมด จะประสบความทุกข์เพราะผู้นำไม่ตั้งอยู่ในธรรม" ดังนี้สูตรนี้ ชื่อว่า สังกิเลสภาคิยสูตร
       พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า"มนุษย์เหล่านี้ มีรูปอันถึงความลำบากแล้วหนอ ยินดีในอุปธิทั้งหลายแล้ว ย่อมทำบาป มนุษย์เหล่านั้น ย่อมไปสู่นรกอเวจีอันน่ากลัว อันเป็นที่อยู่ของชนหมู่มาก" ดังนี้สูตรนี้ ชื่อว่า สังกิเลสภาคิยสูุตรพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า"ผลกล้วยย่อมฆ่าต้นกล้วย ขุยไผ่ย่อมฆ่าต้นไผ่ ดอกอ้อย่อมฆ่าต้นอ้อ ลูกม้าอัสสดรย่อมฆ่าแม่ม้าอัสสดร ฉันใด สักการะย่อมฆ่าบุรุษชั่วฉันนั้น" ดังนี้สูตรนี้ ชื่อว่า สังกิเลสภาคิยสูุตรพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า"ภิกษุ เป็นผู้หนักในความโกรธและความลบหลู่ในคุณของผู้อื่นหนักในลาภและสักการะ ย่อมไม่งอกงามในพระสัทธรรม เหมือนเมล็ดพืชเน่าที่บุคคลหว่านแล้ว แม้ในนาดี ฉะนั้น" ดังนี้สูตรนี้ ชื่อว่า สังกิเลสภาคิยสูตร
[ค้นหา] [สารบัญ] <ก่อนนี้] [ถัดไป>