นโม ตัสสะ ภควโต อรหโต สัมมาสัมพุทธัสสะสารบัญ: ห้วเรื่อง, เลขข้อ | ไฟล์เดียว: html, text | [ค้นหา] [สารบัญ] <ก่อนนี้] [ถัดไป> เนตติปกรณ์แปล : +มิสสกสูตร [106] ในพระสูตร 16 นี้ สูตรชื่อว่า"สังกิเลสภาคิยะและวาสนาภาคิยะเป็นไฉน"ในอุโปสถสูตร พระองค์ทรงเปล่งอุทานว่า"ฝนคือกิเลส ย่อมรั่วรดสิ่งที่ปกปิด ย่อมไม่รั่วรดสิ่งที่เปิด เพราะฉะนั้น พวกเธอพึงเปิดสิ่งที่ปกปิด ฝนคือกิเลสย่อมไม่รั่วรดสิ่งที่เปิดนั้นอย่างนี้" ดังนี้คำว่า "ฝนคือกิเลสย่อมรั่วรดสิ่งที่ปกปิด" นี้ เป็นสังกิเลส ฯ คำว่า"ฝนย่อมไม่รั่วรดสิ่งที่เปิด" นี้ เป็นวาสนา ฯ คำว่า "เพราะฉะนั้น พวกเธอพึงเปิดสิ่งที่ปกปิดไว้ ฝนคือกิเลส ย่อมไม่รั่วรดสิ่งที่เปิดอย่างนี้" นี้เป็นสังกิเลสและวาสนา ฯ คำนี้เป็นสูตร ชื่อว่า สังกิเลสภาคิยะและวาสนาภาคิยะ ฯ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า"ดูกรมหาบพิตร บุคคล 4 เหล่านี้ มีอยู่ในโลก บุคคล 4 เหล่านั้นเป็นไฉน บุคคลผู้มืดมา มืดไป บุคคลผู้มืดมา สว่างไป บุคคลผู้สว่างมามืดไป และบุคคลผู้สว่างมา สว่างไป" ดังนี้ ในบุคคลเหล่านั้น บุคคลใดสังกิเลส ฯ บุคคลใดมืดมา สว่างไป และสว่างมา สว่างไป บุคคลทั้ง 2 นี้เป็นส่วนแห่งวาสนา ฯ คำนี้ ชื่่อว่า สูตรอันเป็นส่วนแห่งสังกิเลสและส่วนแห่งวาสนา ฯ ในพระสูตร 16 นั้น สูตรชื่อว่า"สังกิเลสภาคิยะและนิพเพธภาคิยะเป็นไฉน"พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า"นักปราชญ์ทั้งหลาย ย่อมไม่กล่าว เครื่องผูกอันเกิดแต่เหล็ก เกิดแต่ไม้ และเกิดแต่หญ้าปล้องว่ามั่น แต่สัตว์ผู้กำหนัดแล้ว กำหนัดนักแล้วในแก้วมณี ในแก้วกุณฑล และความห่วงใยในบุตรและภรรยา" ดังนี้ ข้อนี้ เป็นสังกิเลส ฯ "นักปราชญ์ทั้งหลาย กล่าวว่า ความกำหนัด และความกำหนัดนักแล้วเป็นต้น อันหน่วงลง (ลงอบาย) อันหย่อน และอันบุคคลเปลื้องได้ยากนี้ว่ามั่น นักปราชญ์ทั้งหลายตัดเครื่องผูก แม้นั้นแล้ว เป็นผู้ไม่มีความห่วงใยละกามสุขแล้ว ย่อมเว้นรอบ" ดังนี้ข้อนี้ เป็นนิพเพธะ สูตรนี้ ชื่อว่า สังกิเลสภาคิยะและนิพเพธะภาคิยะ ฯ |